แผงโซล่าเซลล์-1-1.png

ประเภทแผงโซลาร์เซลล์

09/07/2025 1ขนส่งสินค้า

เยี่ยมเลยค่ะ! การทำความเข้าใจประเภทของแผงโซลาร์เซลล์จะช่วยให้คุณเลือกแผงที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมการติดตั้งได้ดีที่สุด มาดูกันทีละประเภทนะคะ


 

1. แผงโซลาร์เซลล์ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells)

 

คุณสมบัติ:

  • ผลิตจากซิลิคอนบริสุทธิ์ที่มีโครงสร้างผลึกเดี่ยว ทำให้มีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าสูงที่สุดในบรรดาแผงโซลาร์เซลล์ที่ใช้ซิลิคอนเป็นหลัก
  • ลักษณะเด่น: มีสีเข้มหรือดำสนิท และเซลล์แต่ละชิ้นจะเป็นสี่เหลี่ยมตัดมุมทั้งสี่ด้าน (เหมือนสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดเล็กๆ)
  • ประสิทธิภาพ: เฉลี่ย 18-23% หรือสูงกว่า

ข้อดี:

  • ประสิทธิภาพสูง: ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าต่อพื้นที่ ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ติดตั้งจำกัด
  • ทำงานได้ดีในสภาวะแสงน้อย: สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่าแผงชนิดอื่นเมื่อมีแสงแดดไม่จัดจ้านหรือในสภาพอากาศที่มีเมฆมาก
  • อายุการใช้งานยาวนาน: โดยเฉลี่ยประมาณ 25-40 ปี

ข้อเสีย:

  • ราคาสูง: มีราคาแพงที่สุดเมื่อเทียบกับแผงชนิดอื่น เนื่องจากกระบวนการผลิตซับซ้อนและใช้วัสดุซิลิคอนบริสุทธิ์สูง
  • ไวต่ออุณหภูมิ: ประสิทธิภาพอาจลดลงเล็กน้อยเมื่ออุณหภูมิสูงมาก (แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก)
  • ความไวต่อการบังแสง: หากมีคราบสกปรกหรือเงาบดบังเพียงบางส่วนของแผง อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของทั้งแผงได้มากกว่าชนิดอื่น

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

  • บ้านเรือนหรืออาคารที่มีพื้นที่จำกัด: ต้องการผลิตไฟฟ้าให้ได้มากที่สุดจากพื้นที่ที่มีอยู่
  • ผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด: เน้นการผลิตไฟฟ้าที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาว
  • พื้นที่ที่มีแสงแดดปานกลางถึงน้อย: สามารถผลิตไฟฟ้าได้ดีแม้ในวันที่แสงแดดไม่จัด

 

2. แผงโซลาร์เซลล์ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells)

 

คุณสมบัติ:

  • ผลิตจากซิลิคอนหลอมรวมกัน ทำให้มีโครงสร้างผลึกหลายเหลี่ยม
  • ลักษณะเด่น: มีสีฟ้าหรือน้ำเงิน และเซลล์แต่ละชิ้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเต็ม ไม่มีการตัดมุม
  • ประสิทธิภาพ: เฉลี่ย 15-18%

ข้อดี:

  • ราคาถูกกว่า: มีราคาถูกกว่าแผงโมโนคริสตัลไลน์ เนื่องจากกระบวนการผลิตง่ายกว่าและใช้วัตถุดิบน้อยกว่า
  • ทนต่อความร้อนได้ดีกว่าเล็กน้อย: มีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่ร้อนจัดได้ดีกว่าโมโนคริสตัลไลน์เพียงเล็กน้อย
  • เป็นมิตรกับงบประมาณ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์แต่มีงบประมาณจำกัด

ข้อเสีย:

  • ประสิทธิภาพต่ำกว่า: ผลิตไฟฟ้าต่อพื้นที่ได้น้อยกว่าแผงโมโนคริสตัลไลน์ ทำให้ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งมากกว่าหากต้องการกำลังไฟฟ้าเท่ากัน
  • ไม่เหมาะกับพื้นที่จำกัด: หากพื้นที่ติดตั้งมีจำกัด แผงชนิดนี้อาจไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอตามความต้องการ
  • ทำงานได้ไม่ดีเท่าในสภาวะแสงน้อย: ประสิทธิภาพจะลดลงค่อนข้างมากเมื่อแสงแดดไม่จัด

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

  • บ้านเรือนหรืออาคารที่มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอ: ไม่ติดปัญหาเรื่องพื้นที่ติดตั้ง
  • ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด: ต้องการลดค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการติดตั้ง
  • พื้นที่ที่มีแสงแดดจัดจ้านตลอดวัน: สามารถดึงประสิทธิภาพสูงสุดของแผงชนิดนี้ออกมาได้ดี

 

3. แผงโซลาร์เซลล์ชนิดฟิล์มบาง (Thin-Film Solar Cells)

 

คุณสมบัติ:

  • ผลิตโดยการเคลือบสารกึ่งตัวนำบางๆ (เช่น อะมอร์ฟัสซิลิคอน Cadmium Telluride หรือ Copper Indium Gallium Selenide) ลงบนพื้นผิวต่างๆ
  • ลักษณะเด่น: มีความบางและยืดหยุ่นกว่าแผงชนิดผลึกซิลิคอน มีสีเข้มหรือดำสม่ำเสมอ
  • ประสิทธิภาพ: ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแผงชนิดผลึกซิลิคอน (เฉลี่ย 10-12%)

ข้อดี:

  • ราคาถูกที่สุด: มีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุด ทำให้ราคาต่อวัตต์ถูกที่สุด
  • น้ำหนักเบาและยืดหยุ่น: สามารถติดตั้งบนพื้นผิวโค้งงอได้ และไม่เพิ่มภาระน้ำหนักโครงสร้างมากนัก
  • ทนต่อความร้อนได้ดี: ประสิทธิภาพลดลงน้อยกว่าเมื่ออุณหภูมิสูงมาก
  • ทำงานได้ดีในสภาวะแสงแดดบางส่วน: แม้บางส่วนของแผงถูกบังแสง ก็ยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้อยู่ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งแผงมากนัก

ข้อเสีย:

  • ประสิทธิภาพต่ำ: ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งจำนวนมากเพื่อผลิตไฟฟ้าในปริมาณที่เท่ากันกับแผงชนิดอื่น
  • อายุการใช้งานสั้นกว่า: โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานประมาณ 10-20 ปี ซึ่งสั้นกว่าแผงผลึกซิลิคอน
  • ไม่เหมาะสำหรับระบบขนาดใหญ่ที่ต้องการกำลังไฟสูง: เนื่องจากต้องใช้พื้นที่มากและผลิตไฟได้น้อย

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

  • การใช้งานขนาดเล็กและไม่ต้องใช้พลังงานมากนัก: เช่น ไฟส่องสว่างในสวน, เครื่องคิดเลขพลังงานแสงอาทิตย์, หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
  • พื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านน้ำหนักหรือพื้นผิวไม่เรียบ: เช่น บนหลังคารถยนต์, เรือ, หรืออาคารที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรงมาก
  • โครงการต้นทุนต่ำ: เมื่องบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด และมีพื้นที่ติดตั้งเหลือเฟือ

 

แผงโซลาร์เซลล์ชนิด N-type (และอื่นๆ ที่กำลังพัฒนา)

 

นอกจาก 3 ชนิดหลักข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังพัฒนาและเริ่มนำมาใช้งาน เช่น:

  • แผงโซลาร์เซลล์ N-type: เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ซิลิคอนชนิด N ซึ่งแตกต่างจาก P-type ทั่วไป ทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและทนทานต่อปรากฏการณ์ LID (Light-Induced Degradation) หรือการเสื่อมสภาพจากการได้รับแสงครั้งแรกได้ดีกว่า อายุการใช้งานยาวนาน และประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ
  • แผงโซลาร์เซลล์ Half-Cut Cell / Bifacial: แผงที่ตัดเซลล์เป็นครึ่ง เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน และแผงที่รับแสงได้ทั้งสองด้าน (ด้านหน้าและด้านหลัง) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  • แผงโซลาร์เซลล์ Perovskite: เป็นวัสดุชนิดใหม่ที่กำลังได้รับการวิจัยอย่างมาก มีศักยภาพในการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลงมากในอนาคต

สรุปการเลือกใช้งาน:

  • เน้นประสิทธิภาพสูงสุดและพื้นที่จำกัด: เลือก โมโนคริสตัลไลน์
  • เน้นประหยัดงบประมาณและมีพื้นที่เพียงพอ: เลือก โพลีคริสตัลไลน์
  • เน้นน้ำหนักเบา, ยืดหยุ่น, หรือต้นทุนต่ำสำหรับการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน: เลือก ฟิล์มบาง

การเลือกแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งงบประมาณ, พื้นที่ติดตั้ง, ความต้องการใช้ไฟฟ้า, และสภาพอากาศในพื้นที่ของคุณค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคุณนะคะ!