Moving Tips Archives - Page 2 of 6 - บริษัท ไดโนมูฟ จำกัด

ขนของย้ายหอ.png

จ้างรถขนของ ราคาเท่าไหร่?

จ้างรถขนของ ราคาเท่าไหร่ เป็นคำถามที่ไม่มีราคาตายตัว เนื่องจากค่าบริการจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

  • ประเภทของรถ: รถกระบะจะมีราคาถูกกว่ารถบรรทุก 6 ล้อ หรือ 10 ล้อ
  • ระยะทาง: ยิ่งระยะทางไกล ราคาก็จะสูงขึ้น
  • ปริมาณและน้ำหนักของสิ่งของ: ของเยอะและหนักมาก ก็อาจมีค่าบริการเพิ่มขึ้น
  • บริการเสริม: หากต้องการคนช่วยยกของ หรือบริการแพ็คของ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ความยากง่ายในการขนย้าย: หากต้องขนย้ายในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก หรือมีสิ่งของที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ราคาก็อาจสูงขึ้น
  • ช่วงเวลาที่ใช้บริการ: บางครั้งช่วงเทศกาล หรือช่วงเวลาเร่งด่วน อาจมีราคาที่สูงกว่าปกติ

โดยทั่วไปแล้ว การคิดราคารถรับจ้างขนของจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลักๆ คือ

  1. คิดตามระยะทาง: จะมีราคาเริ่มต้น และคิดเพิ่มตามกิโลเมตรที่วิ่ง เช่น
    • รถกระบะรับจ้าง: ราคาเริ่มต้นประมาณ 500 – 1,500 บาท และคิดเพิ่มประมาณ 10 – 30 บาทต่อกิโลเมตร
    • รถ 6 ล้อรับจ้าง: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 – 2,500 บาทขึ้นไป และคิดเพิ่มตามระยะทาง
    • รถ 10 ล้อรับจ้าง: ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,500 บาทขึ้นไป และคิดเพิ่มตามระยะทาง
  2. คิดราคาเหมา: เหมาะสำหรับการขนย้ายในระยะทางที่ไม่ไกลมาก หรือการขนย้ายภายในขอนแก่น , กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยราคาจะขึ้นอยู่กับประเภทรถและปริมาณของ

ตัวอย่างราคาโดยประมาณ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้):

  • รถกระบะรับจ้าง:
    • ในกรุงเทพฯ/ปริมณฑล: เริ่มต้นประมาณ 1,500 – 2,500 บาท (ราคาเหมา) หรือคิดตามระยะทางเริ่มต้นประมาณ 1,500 บาท + กิโลเมตรละ 10-25 บาท
    • ต่างจังหวัด: เริ่มต้นประมาณ 2,500 บาท หรือคิดตามระยะทาง
  • รถ 6 ล้อรับจ้าง:
    • ในกรุงเทพฯ/ปริมณฑล: เริ่มต้นประมาณ 4,500 บาท (ราคาเหมา) หรือคิดตามระยะทางเริ่มต้นประมาณ 2,500 บาท + กิโลเมตรละ 15-30 บาท
    • ต่างจังหวัด: เริ่มต้นประมาณ 4,500 บาท หรือคิดตามระยะทาง

หมายเหตุ:

เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุด ควรติดต่อผู้ให้บริการรถรับจ้างโดยตรง แจ้งรายละเอียดการขนย้ายของคุณ เช่น ประเภทของสิ่งของ จำนวน ระยะทาง จุดรับและจุดส่ง เพื่อขอใบเสนอราคา


บริษัท-ไดโนมูฟ-จำกัด-1200x1006.png

เบอร์โทรศัพท์ของ บริษัท ไดโนมูฟ จำกัด

0944389999 , 0854573789 นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของ บริษัท ไดโนมูฟ จำกัด ลูกค้าสามารถติดต่อใช้บริการผ่านเบอร์โทรศัพท์ของเราที่แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้นนะครับ!!

บริษัท ไดโนมูฟ จำกัด

เราให้บริการเกี่ยวกับ รถรับจ้าง ขนของ ย้ายบ้าน ย้ายหอ ย้ายคอนโด ขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ ขนส่งสัตว์เลี้ยง และ รับขนส่งสินค้าทุกชนิด สำนักงานใหญ่ของเราตั้งอยู่เลขที่ 496 หมู่ที่ 17 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40000

ติดต่อเรา

โทรศัพท์: 094-438-9999 (dtac)

โทรศัพท์: 085-457-3789 (ais)

ไลน์ ไอดี: @dinomove

Email: info@dinomove.co.th


ส่งมอเตอร์ไซค์ที่ไหนดี-.png

เลือกบริษัทขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ยังไงให้ปลอดภัย มั่นใจ และคุ้มค่า

ส่งมอเตอร์ไซค์ทางไหนดี ? การขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะรถมอเตอร์ไซค์เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงและมีความละเอียดอ่อนในการขนย้าย หากเลือกบริษัทขนส่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์ของเราได้รับความเสียหายได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ เราควรพิจารณาปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้

บริษัทขนส่งรถมอเตอร์ไซค์
บริษัทขนส่งรถมอเตอร์ไซค์

ปัจจัยสำคัญในการเลือกบริษัทขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ (ส่งมอเตอร์ไซค์ทางไหนดี ?)

  • ประสบการณ์: บริษัทที่มีประสบการณ์ในการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ จะมีความเชี่ยวชาญในการจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการขนส่ง และมีความเข้าใจในวิธีการป้องกันรถไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่ง
  • ความน่าเชื่อถือ: ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัทจากรีวิวของลูกค้ารายอื่น ๆ หรือสอบถามจากคนที่เคยใช้บริการมาก่อน
  • ประกันภัย: บริษัทที่ดีจะต้องมีประกันภัยคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถมอเตอร์ไซค์ของคุณในระหว่างการขนส่ง
  • อุปกรณ์ในการขนส่ง: ตรวจสอบว่าบริษัทมีอุปกรณ์ในการขนส่งที่ทันสมัยและเหมาะสมกับขนาดและชนิดของรถมอเตอร์ไซค์ของคุณหรือไม่
  • ราคา: เปรียบเทียบราคาของหลาย ๆ บริษัท เพื่อเลือกราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ แต่ไม่ควรเลือกบริษัทที่ราคาถูกเกินไป เพราะอาจมีความเสี่ยงที่คุณภาพของบริการจะไม่ดี
  • ระยะเวลาในการขนส่ง: สอบถามระยะเวลาในการขนส่งที่แน่นอน เพื่อวางแผนการเดินทางของคุณได้อย่างเหมาะสม
บริษัทขนส่งรถมอเตอร์ไซค์
ปัจจัยสำคัญในการเลือกบริษัทขนส่งรถมอเตอร์ไซค์

ขั้นตอนการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์โดยทั่วไป

  1. ติดต่อบริษัทขนส่ง: สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับบริการและขอใบเสนอราคา
  2. เตรียมความพร้อมรถมอเตอร์ไซค์: ทำความสะอาดรถมอเตอร์ไซค์และตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมก่อนส่งมอบ
  3. การรับรถ: เจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่งจะมารับรถมอเตอร์ไซค์ของคุณที่บ้านหรือสถานที่ที่คุณกำหนด
  4. การขนส่ง: รถมอเตอร์ไซค์ของคุณจะถูกขนส่งไปยังปลายทางโดยรถบรรทุกที่ออกแบบมาสำหรับขนส่งรถโดยเฉพาะ
  5. การส่งมอบ: เจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่งจะส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์ให้คุณที่ปลายทาง

 

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ถ่ายรูปรถมอเตอร์ไซค์ก่อนส่งมอบ: เพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่รถมอเตอร์ไซค์ได้รับความเสียหาย
  • ตรวจสอบสภาพรถมอเตอร์ไซค์อีกครั้งเมื่อได้รับรถ: เพื่อให้แน่ใจว่ารถมอเตอร์ไซค์ของคุณอยู่ในสภาพสมบูรณ์
  • เก็บเอกสารที่เกี่ยวข้อง: เช่น ใบเสนอราคา ใบรับรองการขนส่ง และใบเสร็จรับเงิน ไว้เป็นหลักฐาน

สรุป การเลือกบริษัทขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ดี จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ของคุณจะถูกส่งมอบอย่างปลอดภัยถึงปลายทาง โดยไม่เกิดความเสียหายใด ๆ การทำความเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ และปัจจัยที่ควรพิจารณา จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกบริษัทขนส่งที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้

 


facebook-รถรับจ้าง.jpeg

ขอเชิญชวนเข้าร่วม กลุ่มเฟซบุ๊ก รถรับจ้าง สร้างเครือข่าย สร้างโอกาส

กลุ่มเฟซบุ๊ก รถรับจ้าง : หากคุณต้องการขยายฐานลูกค้า เพิ่มรายได้ สร้างโอกาศ หรือหาเพื่อนร่วมงานที่จริงใจ! กลุ่มเฟซบุ๊ก รถรับจ้าง คือคำตอบ! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนออนไลน์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อคนขับรถรถรับจ้างโดยเฉพาะ ไม่ว่าท่านจะเป็นคนขับรถ 6 ล้อ, 10 ล้อ, รถบรรทุก, รถกระบะ หรือรถตู้ เราคือกลุ่มที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณแน่นอน

ทำไมต้องเข้าร่วม กลุ่มเฟซบุ๊ก รถรับจ้าง ?

  • ขยายฐานลูกค้า: พบเจอลูกค้ารายใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น
  • แลกเปลี่ยนข้อมูล: แชร์ประสบการณ์ ข้อมูลเส้นทาง ราคาตลาด และเทคนิคต่างๆ
  • หาเพื่อนร่วมงาน: สร้างเครือข่ายกับคนขับรถรายอื่นๆ
  • อัปเดตข่าวสาร: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับวงการขนส่ง
  • โปรโมทธุรกิจ: โฆษณาบริการของตัวเองให้เป็นที่รู้จัก

สนใจเข้าร่วมกลุ่มคลิ๊กเลย!!: https://www.facebook.com/groups/transport.and.moving

วิธีการเข้าร่วม กลุ่ม เฟซบุ๊ก รถรับจ้าง

  1. ค้นหา: ใช้คำค้นหา เช่น “กลุ่มรถรับจ้าง”, “รถบรรทุก”, “หาลูกค้ารถรับจ้าง” ในช่องค้นหาของ Facebook
  2. ขอเข้าร่วม: เมื่อเจอกลุ่มที่สนใจ ให้คลิกปุ่ม “ขอเข้าร่วม” และรอการอนุมัติจากแอดมิน
  3. ปฏิบัติตามกฎ: เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ให้ศึกษาและปฏิบัติตามกฎของกลุ่มอย่างเคร่งครัด

เคล็ดลับในการใช้ กลุ่มfacebook ให้เกิดประโยชน์สูงสุด:

  • แนะนำตัว: เมื่อเข้าร่วมกลุ่มใหม่ๆ ควรแนะนำตัวและบอกว่าให้บริการรถประเภทใด
  • โพสต์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์: แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับสมาชิกคนอื่นๆ
  • ตอบคำถาม: ช่วยตอบคำถามของสมาชิกท่านอื่นๆ
  • สร้างปฏิสัมพันธ์: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิกท่านอื่นๆ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • เลือกกลุ่มที่น่าเชื่อถือ: เลือกกลุ่มที่มีสมาชิกจำนวนมาก มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และมีกฎระเบียบที่ชัดเจน
  • ระวังการหลอกลวง: ไม่ควรหลงเชื่อข้อความที่น่าสงสัย หรือโอนเงินให้กับบุคคลที่ไม่รู้จัก
  • รักษาความเป็นส่วนตัว: ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญเกินไป

อย่ารอช้า! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเฟซบุ๊ก รถรับจ้างกันเถอะ!

หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยค่ะ

 

สนใจเข้าร่วมกลุ่มคลิ๊กเลย!!: https://www.facebook.com/groups/transport.and.moving


ค่ารถ-ค่ายกของ.png

ค่ารถ ค่าแรงยกของ ทำไมต้องคิดแยกกัน

ค่ารถ ค่าแรงยกของ ทำไหมต้องคิดแยกกัน วันนี้เรามาทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายในการขนย้ายให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าทำไมต้องแยกค่ารถและค่าแรงยกของออกจากกัน?

ทำไมต้องแยกค่ารถและค่าแรงยกของ?

การแยกค่ารถและค่าแรงยกของในการขนย้ายนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถ:

  • วางแผนงบประมาณได้แม่นยำยิ่งขึ้น: ผู้ใช้สามารถประมาณค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน หรือค่าแรงคนงาน
  • เปรียบเทียบราคาได้ง่ายขึ้น: การแยกค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบราคาจากผู้ให้บริการรายต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
  • เลือกบริการที่เหมาะสมได้มากขึ้น: ผู้ใช้สามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของตนเองได้มากขึ้น เช่น หากมีแรงงานช่วยยกของอยู่แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องจ้างคนงานเพิ่ม

ปัจจัยที่มีผลต่อค่ารถและค่าแรงยกของ

  • ระยะทาง: ระยะทางในการขนย้ายมีผลโดยตรงต่อค่าเช่ารถและค่าน้ำมัน
  • ประเภทรถ: ขนาดและประเภทของรถที่ใช้ขนย้าย เช่น รถกระบะ รถ 6 ล้อ จะมีอัตราค่าเช่าที่แตกต่างกัน
  • ปริมาณและน้ำหนักของสิ่งของ: ปริมาณและน้ำหนักของสิ่งของที่ต้องขนย้ายจะมีผลต่อจำนวนคนงานที่ต้องใช้ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการยกของ
  • ความยากง่ายในการขนย้าย: สถานที่ต้นทางและปลายทาง ความสูงของตึก หรือสภาพของสิ่งของที่จะขนย้าย ล้วนมีผลต่อความยากง่ายในการขนย้ายและค่าแรงงาน
  • เวลาในการขนย้าย: เวลาที่ใช้ในการขนย้าย เช่น วันธรรมดาหรือวันหยุด อาจมีค่าบริการที่แตกต่างกัน

วิธีการคำนวณค่าใช้จ่าย

โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายจะประกอบด้วย

  • ค่าเช่ารถ: คำนวณจากระยะทางและประเภทของรถ
  • ค่าแรงคนงาน: คำนวณจากจำนวนคนงาน จำนวนชั่วโมงในการทำงาน และความยากง่ายของงาน
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: เช่น ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าประกันภัย
ตัวอย่างการคำนวณ:

สมมติว่าคุณต้องการ ขนของย้ายบ้านจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดขอนแก่น ระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร โดยใช้รถกระบะ และต้องใช้คนงาน 2 คนในการยกของ

  • ค่าเช่ารถ: อาจมีค่าบริการเริ่มต้น   และคิดค่าบริการตามระยะทางกิโลเมตร (สมมุติว่าค่าเช่ารถ 5,000บาท)
  • ค่าแรงคนงาน: หากค่าแรงคนงานรายวันอยู่ที่ 500 บาท และใช้เวลาในการขนย้าย 1วัน เท่ากับ 500×2 = 1,000บาท
  • ค่าใช้จ่ายรวม: 5,000 + 1,000 = 6,000 บาท

หมายเหตุ: ราคาที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่าง และอัตราค่าบริการอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ให้บริการและปัจจัยอื่นๆ และหลายครั้งที่เราอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าหากจ้างรถแล้วพนักงานขับรถเขาจะต้องยกของช่วยด้วย , จากบทความนี้จะเห็นได้ว่ามีการจ้างคนยกของ2คน ผู้ให้บริการบริการส่วนใหญ่ก็จะจัดพนักงานไป 2คน ได้แก่ พนักงานขับรถ1คน เด็กยกของ1คน รวมกันเป็น2คนนั้นเองครับ (พนักงานขับรถไม่มีหน้าที่ยกของ หากให้พนักงานขับรถยกของต้องจ่ายค่าแรงยก)


เคล็ดลับในการประหยัดค่าใช้จ่าย
  • เปรียบเทียบราคา: ขอใบเสนอราคาจากหลายๆ บริษัท เพื่อเปรียบเทียบราคาและเลือกบริการที่คุ้มค่าที่สุด
  • เตรียมของให้พร้อม: แพ็คของให้เรียบร้อยและจัดเตรียมรายการสิ่งของที่จะขนย้าย เพื่อลดเวลาในการทำงานของคนงาน
  • เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม: การขนย้ายในช่วงวันธรรมดา อาจมีค่าบริการถูกกว่าช่วงวันหยุด
  • ต่อรองราคา: ลองต่อรองราคากับผู้ให้บริการ เพื่อขอส่วนลดเพิ่มเติม

สรุป

การแยกค่ารถและค่าแรงยกของ ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถวางแผนงบประมาณและเลือกบริการที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนตัดสินใจจ้างบริการขนย้าย ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่ง เพื่อให้ได้บริการที่คุ้มค่าที่สุด

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกบริการขนย้ายแบบใด ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำ
  • อ่านรีวิว: ตรวจสอบรีวิวของบริษัทผู้ให้บริการ เพื่อดูว่ามีบริการที่ดีและน่าเชื่อถือหรือไม่
  • ทำสัญญา: ก่อนทำการจ้างบริการ ควรทำสัญญาให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง